วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เป็นใหญ่ได้ใจมันต้องเชื่อง+++

วาทะธรรมหลวงปู่วัดปากน้ำ วาทะที่ ๓๙ : เป็นใหญ่ได้ใจมันต้องเชื่อง โดย สิงหล


ที่จะเป็นใหญ่ได้ใจมันต้องเชื่อง 
ต้องติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ 

ถ้าติดอยู่ได้เช่นนั้น ภิกษุหรือสามเณรติดอยู่ได้เช่นนั้นละก็ จะเป็นภิกษุที่เป็นใหญ่ 

จะเป็นสามเณรที่เป็นใหญ่ 
ถ้าเป็นอุบาสกอุบาสิกาเล่า ถ้าใจไปติดอยู่ตรงนั้นละก็ จะเป็นอุบาสก อุบาสิกา ที่เป็นใหญ่

แต่ว่าเขาทำกันติดได้มีนะ ในวัดปากน้ำเขาทำติดได้กันมากทีเดียวแหละ ติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ 

พอติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ไม่หลุดหละ ก็ไม่ช้าเท่าไรหรอก ติดอยู่กลางนั่นแหละ ติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละก็ กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง  พอหยุดได้ ก็กลางของกลาง กลางของกลาง ๆ ๆ ๆ อยู่นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด ฯ 

(กัณฑ์ที่ ๑๐ : คารวาธิกถา  ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๗ จากหนังสือมรดกธรรมของหลวงพ่อวัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี (สด  จนฺทสโร)

ใจ...หยุด 24 น.

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทำไมปล่อยวัดพระธรรมกายให้โตมาถึงขนาดนี้ !!!

" ผม...เคยคิดจะมาเผาวัด เคยพูดกับนายพลระดับบิ๊กๆ ว่า ทำไมพี่ปล่อยวัดพระธรรมกายให้โตมาถึงขนาดนี้ "

ผมเป็นคนหนึ่ง ที่เคยเกลียดวัด ไม่ชอบวัดพระธรรมกายอย่างรุนแรงถึงขั้นที่จะมาเผาวัด และในฐานะที่ผมมีตำแหน่งหน้าที่ทางการโดยตรง ถูกปลูกฝังเรื่องการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาอย่างดื่มด่ำเข้าไปในสายเลือด 



ผมยังเคยคิดเลยว่า วัดพระธรรมกายทำให้ศาสนาแตกแยก เป็นองค์กรที่โตขึ้นๆ จนปัจจุบัน คนมาวัดนี้เป็นแสนๆ โตอย่างหยุดยั้งไม่ได้ สร้างโน่นสร้างนี่อะไรกันนักหนา ผมถึงขนาดที่ว่าไปหานายพลระดับบิ๊กๆ บอกว่า "พี่ๆ ทำไมพี่ปล่อยวัดพระธรรมกายให้โตมาถึงขนาดนี้ "

" ทำไมถึงปล่อยให้วัดลอยนวล " นายพลท่านนั้นตอบว่า " เรื่องนี้มันพูดยาก เพราะมีผู้ใหญ่หลายท่านมาวัดนี้ " ตอนนั้นผมหัวรุนแรงมาก ขนาดเข้าสอนชั้นผู้บังคับกองร้อย และชั้นผู้บังคับกองพันทั้ง 16 เหล่าของกองทัพบก ผมสั่งนักเรียนของผมเลยว่า ห้ามมาวัดนี้

แต่แล้วคนใกล้ตัวที่ผมรักที่สุด คือภรรยาของผมเอง กลับมาเข้าวัดนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ผมจึงตัดข่าวหนังสือพิมพ์ทั้งหมดเอาไปให้เธออ่านและต่อว่าอย่างหนัก ถึงขนาดขู่เธอว่า " ระหว่างวัดกับผมเธอเลือกใคร? "ภรรยาผมกลับตอบว่า เธอเลือกวัด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เธอก็เลือกวัด 

ผมและเธอจึงนัดกันไปหย่า แต่ในที่สุดภรรยาของผมก็บอกว่า เธอเชื่อว่าวัดจะสอนให้ลูกเป็นคนดีได้ ขอให้ทำเพื่อลูก ให้ขึ้นไปนั่งสมาธิ(Meditation)กับลูกสักครั้ง ผมจึงยอมและคิดในใจว่า


ถ้าวัดสอนไม่ดียังไง ผมก็จะไม่ทำ ผมไม่ยอมถูกล้างสมองอยู่แล้ว เพราะไม่อยากทะเลาะกันรุนแรงอีกและที่สำคัญผมต้องยอมทำเพื่อลูก ซึ่งผลก็คือ แปลกมากเลย หลังจากที่ลูกชายวัยรุ่นทั้งสองคนไปนั่งสมาธิและเริ่มไปวัดพระธรรมกาย เขาเปลี่ยนไปมาก เขาเป็นคนดีเหมือนเป็นคนใหม่จนผมปลื้มใจ จากนั้นผมก็เริ่มใจเปิด แต่ก็ยังคิดว่า ต้องมาหาข้อแท้จริงกับทางวัดให้ได้

ช่วงแรกที่ผมมา ผมจ้องจับผิดในทุกเรื่อง จนกระทั่งมาเจาะลึกถึงที่มาที่ไปของวัด หลังจากมาศึกษามานั่งสมาธิที่วัด มาฟังคำสอนของหลวงพ่อเจ้าอาวาสบ่อยๆ ประกอบกับภรรยาคอยอธิบายข้อสงสัยต่างๆ ให้ฟัง และเปิดรายการธรรมะของทางวัดให้ผมดู ตัวผมเลยได้ฟังคำสอนของวัดนี้ 

ในที่สุดก็พบว่า ไม่เห็นพระวัดนี้สอนอะไรที่ไม่ดีอย่างที่เขาว่ากันเลย ตั้งแต่นั้นเลยเริ่มเข้าใจ รู้แล้วว่าทำไมวัดต้องสร้างใหญ่โต จากเดิมที่เป็นวัดเล็กๆ แถวปทุมธานี ซึ่งสมัยนั้นกันดารสุดๆ มีศาลาปฎิบัติธรรมจุคนได้มากที่สุดก็แค่ 400 กว่าคน 

แต่หลังจากนั้นคนก็เริ่มแห่กันเข้าวัดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนพื้นที่ของวัดจุคนไม่พอคนมาวัดต้องมานั่งตากแดดเปรี้ยงๆ บางทีหน้าฝนก็เปียกปอนกันหมด วัดจึงต้องขยายพื้นที่และสร้างศาลาเพิ่มขึ้นตามปริมาณคนที่มา

เพราะเขามาแล้ว จะไปไล่เขาไม่ให้มาก็ไม่ได้ ปัจจุบันคนยังแห่กันมาอีกเป็นแสน พอมีงานบุญใหญ่ๆ ทีไร พื้นที่ 2,000 ไร่ของวัด รู้สึกเล็กลงไปแล้ว ที่จอดรถก็ไม่ค่อยพอ ผมว่าถ้าคุณมาดูกันจริงๆ ก็จะต้องคิดตรงกันว่า 2,000 ไร่ ยังเล็กเกินไป หลังจากที่ผมศึกษาพุทธศาสนามากขึ้น ทำให้ผมพบว่า



ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี

วัดพระเชตวันมหาวิหาร ที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย พระพุทธเจ้า มีราคาถึง 540 ล้านกหาปณะ ถ้าเทียบเป็นเงินในปัจจุบันก็เกือบแสนล้านบาท พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ที่นี่ถึง 20 กว่าพรรษา 

ซึ่งหากมาศึกษาถึงคำสอนจริงๆ แล้ว จะพบว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้พระภิกษุมีความสมถะ สันโดษทำอะไรให้เรียบง่ายนั้น พระองค์ทรงสอนในแง่ของการฝึกตน 

ในเรื่องของการเป็นผู้อยู่ง่ายเลี้ยงง่าย มีอาหารที่เขาตักบาตรมาอย่างไรก็ทำตนให้ง่ายต่อการขบฉัน อีกทั้งยังมีพุทธบัญญัติห้ามพระภิกษุสร้างกุฎิที่พักอาศัยใหญ่จนเกินควร

แต่ในแง่ของการสร้างศาสนสถาน เพื่อให้คนมาฟังธรรมให้ได้มากที่สุด พระองค์กลับทรงชื่มชมอนุโมทนา เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการสร้างวัดใหญ่ๆ ซึ่งนอกจากวัดพระเชตวันแล้ว 

ก็ยังมีอีกหลายวัดเช่นวัดปุพพาราม ที่นางวิสาขาสร้างถวายเป็นโลหปราสาท ค่าก่อสร้างตั้งหลายหมื่นล้านเช่นกัน เพราะท่านหวังเพื่อให้เป็นประโยชน์ด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป

หากพระองค์ไม่ทรงทำอย่างนี้เมื่อ 2,548 ปีที่แล้ว ก็คงไม่มีพระพุทธศาสนาตกทอดมาจนถึงปัจจุบันไม่มีหลักฐานทางศาสนาใดหลงเหลือ ซึ่งผมคิดว่า หากจะพูดว่าวัดพระธรรมกายใหญ่โตแล้ว ผมว่าวัดนี้ยังคงเล็กมากด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับสมัยพุทธกาลเมื่อผมมองแล้วผมก็เพิ่งเข้าใจ

ที่วัดสร้างเจดีย์ให้มีองค์พระ 1 ล้านองค์ ก็เพื่ออยากให้ทุกคนมีส่วนเป็นเจ้าของ เมื่อรู้สึกเป็นเจ้าของมีใจผูกพันอยู่กับพระพุทธเจ้าและคำสอนของพระองค์แล้ว ก็จะมาช่วยกันดูแลรักษา มาพร้อมเพรียงกันปฎิบัติธรรม 

ซึ่งเมื่อเจดีย์สร้างเสร็จแล้ว ก็จะกลายเป็นเจดีย์ของชาวพุทธทั่วโลก ทุกคนจะเป็นเจ้าของร่วมกัน เป็นสมบัติของแผ่นดินที่ต่างชาติจะต้องอัศจรรย์ใจ ซึ่งวัดเองก็ใช่ว่าจะเอาไปขายได้เมื่อไร หากขายจริงๆ ..ใครจะซื้อเจดีย์หรือ ? 

ทุกวันนี้หากถามว่าพุทธศาสนามีอะไรเป็นศูนย์รวมบ้าง อิสลามเขายังมีเมกกะ เขายังห้ามกินเหล้า ต้องละหมาดวันละ 5 ครั้ง คริสต์เขาก็มีวาติกัน ไปโบสถ์กันทุกวันอาทิตย์ ต้องมีหน้าที่แบ่งเงินเดือนของตัวเองมาบริหารงานศาสนาของเขา 

ส่วนคนพุทธไม่มีกฎอะไรมาบังคับเลย มีอะไรที่น่าภาคภูมิใจในการนับถือศาสนาประจำชาติบ้างซึ่งคนพุทธสมัยนี้นอกจาก ศีลยังไม่ถือแล้ว เขาจะขยายวัดขยายวา เขาจะทำบุญยังไปห้าม ยังไปโจมตีอีก

ผมว่ามันแปลกๆ เราคงต้องมาทบทวนอะไรกันบางอย่างนะครับ

*กระผมขอกราบขอขมาต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และคณะสงฆ์ ที่เคยคิดอกุศล พูดอกุศล ขอได้โปรดอดโทษ ให้เป็นอโหสิกรรมต่อกระผมด้วยเถิด

***
พ.อ. ณัฐสรณ์ สาริมาน
ประจำ ศบบ.รรก.หน.รร.การบินทหารบก
***

----------------------------------------------------------------

กฎกระทรวง
ว่าด้วยการยกเว้น ผ่อนผันหรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๕๐

ข้อ ๒ ให้อาคารดังต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาต ตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๔
(๔) โบราณสถาน วัดวาอาราม หรือ อาคารต่างๆ ที่ใช้เพื่อการศาสนา ซึ่งมีกฎหมายควบคุมการก่อสร้างไว้แล้วโดยเฉพาะ

อธิบาย เห็นได้ชัดว่า ตามประกาศกฎกระทรวงได้กำหนดไส้ชัดเจนว่า การสร้างอาคารของวัด หรืออาคารที่ใช้เพื่อการศาสนา ไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตก่อสร้าง เพียงแต่วัดไปแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบว่าจะสร้างอาคารพร้อมยื่นแบบที่ได้รับการตรวจรับรองตามกฎหมายที่ควบคุมการก่อสร้างไว้แล้วโดยเฉพาะ ก็สามารถก่อสร้างได้เลย

เพราะอาคารแต่ละแบบ ประเภท ชนิด จะต้องได้รับความปลอดภัยตามมาตรฐานทางวิศวรรมที่กฎหมายควบคุมการก่อสร้างนั้นมีการกำหนดควบคุมไว้ถึงสภาพของอาคารที่แตกต่างกัน

เช่น การสร้างอาคารจอดรถ ๕ ชั้น กับ อาคารชุดเพื่ออยู่อาศัย แบบการก่อสร้าง การควบคุมการก่อสร้างมีกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมไวเแล้วต่างกัน ก็ต้องใช้กฎหมายควบคุมการก่อสร้างไว้แล้วโดยเฉพาะ




ดังนั้น อาคารที่ก่อสร้างในวัดพระธรรมกาย จึงไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด

*** ใครสั่งดำเนินคดีวัด หรือ อาคารที่ใช้เพื่อการศาสนาว่า ถ้าไม่ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้าง คนนั้นต้องมีความผิด ม.157 ***

Cr.Psanitwong Wuttiwangso , เรารักวัดพระธรรมกาย

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย >>> "ธรรมกาย" คืออะไร???

“วันมหัศจรรย์ของโลก” วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี



การค้นพบวิชชาธรรมกาย
      วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย คือวันที่เหล่าศิษยานุศิษย์ ต่างรำลึกถึงวันที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) สละชีวิตเป็นเดิมพัน

 ในการปฏิบัติธรรมเพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต หรือธรรมะที่แท้จริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบในวันตรัสรู้ นั่นก็คือ "วิชชาธรรมกาย"

 ซึ่งนับนานกว่า 2,000 ปีหลังพุทธปรินิพพาน ที่คำสอนที่แท้จริงในด้านการปฏิบัติเพื่อบรรลุซึ่งมรรคและผลได้เลือนหายไป คงเหลือไว้แต่คำว่า "ธรรมกาย" ในพระไตรปิฎกเท่านั้นเอง

 จนในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีได้สละชีวิตในการนั่งสมาธิ (Meditation) จนบรรลุธรรม



 ดังนั้นในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ทางวัดพระธรรมกาย และศิษยานุศิษย์หลวงปู่ทั่วโลกต่างก็ได้จัดให้มีพิธิฉลองวันครูธรรมกายขึ้นเป็นประจำเหมือนอย่างทุกปีที่ผ่านมา. 

ธรรมกาย คือ อะไร? 
      นับแต่ครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ประสูติ ในวันเพ็ญเดือน 6 ใน วันนั้นเรียกว่า วันบังเกิดแห่ง "รูปกาย หรือ กายเนื้อ" ของ พระโพธิสัตว์ 

หลังจากนั้นที่โคนไม้พระศรีมหาโพธิ์ พระมาหาสมณะได้ทิ้งชีวิตปฏิบัติธรรมอย่างเด็ดเดี่ยว ใต้โพธิบัลลังก์เพื่อแสวงหาความจริงของชีวิต

 จนพระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันเพ็ญเดือน 6 นั่นเอง

 วันนั้นเป็นวันที่เรียกว่า วันบังเกิดแห่ง “ธรรมกาย หรือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรม” 



 ดังนั้น ธรรมกาย คือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เข้าถึง แล้วทำให้ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระองค์บริบูรณ์ขึ้นมานั่นเอง.

 หลังจากนั้น 45 พรรษาแห่งการเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ได้เทศนาสั่งสอนให้คนทั้งหลายได้รู้จักธรรมกาย

 และหนทางปฏิบัติให้เข้าถึงซึ่งธรรมกาย อันเป็นทางเอกสายเดียว และเป็นทางสายกลางที่จะให้มวลมนุษย์ได้เข้าถึงความสุขอันยิ่งใหญ่ หรือ พระนิพพานได้!!

 แต่หลังจากนั้นประมาณ 500 ปีหลังพุทธปรินิพพาน วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรมกาย ได้หายสาบสูญไปเหลือเพียงแต่คำว่า ธรรมกาย ให้คนรุ่นหลังได้ตีความไปต่างๆ นานา

 แต่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วธรรมกายคืออะไร!


 จนในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ที่พระอุโบสถ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง พระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง (สด จนฺทสโร) ได้สละชีวิตเป็นเดิมพัน ขอนั่งสมาธิแม้ตายก็ไม่ลุกจากที่ หากไม่เข้าถึงธรรมที่พระบรมศาสดาได้เข้าถึง



 ในที่สุดแห่งความพยายาม ท่านได้เข้าถึงธรรม ณ ที่นั้น และได้เผยแผ่ธรรม ตลอดจนวิธีปฏิบัติ อันเป็นแม่แบบ และ ต้นแบบ ตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ อย่างถูกต้องตามร่องรอยของพระพุทธศาสนาจนตลอดชีวิตของท่าน

ทำไมเราต้องเคารพ และบูชาท่าน? 



 เมื่อได้ลงมือศึกษาพระไตรปิฎกแล้วจะพบว่า การศึกษาจนกระทั่งแตกฉาน แล้วสามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในภาคปฏิบัตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย.

 เพราะว่าคำพูดแต่ละคำที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกนั้น ล้วนเป็นถ้อยคำที่ลึกซึ้ง มีความหมายได้หลายนัย หากเอาความรู้ของเราที่มีอยู่ไปวินิจฉัย แล้วนำมาปฏิบัติ ก็ยากที่จะบังเกิดผลได้



 ด้วยเหตุนี้เองการที่ผู้ใดผู้หนึ่ง จะศึกษาธรรมะให้ได้เข้าใจลึกซึ้ง ชัดเจน และสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติ ให้เกิดผลได้จริงแล้ว เรื่องสำคัญคือ "ต้องได้ครูดี" 

 เพราะว่าถ้ายังหาครูดีไม่เจอ เมื่ออ่านธรรมะแล้ว ธรรมะนั้นจะผ่านตาแต่ไม่ผ่านใจ แล้วตีความหมายผิดเพี้ยน หรือว่ามีความลึกซึ้งไม่เพียงพอที่จะนำไปปฏิบัติก็ได้ จนในที่สุดอาจจะทำให้ต้องเดือดร้อนตามมาในภายหลัง

 นอกจากจะค้นวิชชาธรรมกายกลับมาได้แล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ ยังเมตตานำวิชชาธรรมกาย ไปสอนผู้อื่น เพื่อให้มนุษย์ในยุคนั้น ได้รู้จักวิชชาธรรมกายตามท่านอีกด้วย


   เพราะเมื่อถึงคราวปฏิบัติธรรม ท่านก็เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไปค้นเอาวิชชาธรรมกายย้อนกลับมาให้พวกเรา... 

 ถึงคราวอบรมลูกศิษย์ลูกหา ท่านก็ได้วางกฎ วางระเบียบ เอาไว้ เป็นขั้น เป็นตอน อย่างละเอียดชัดเจน และเนื่องจากการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงธรรมกายในตัวนี้ ไม่ใช่ทำได้ง่าย

 ท่านจึงได้เคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ ขนาบแล้วขนาบอีก อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใครที่ปฏิบัติได้จริง ก็เท่ากับเป็นพยานให้กับพระพุทธศาสนาไปด้วยในตัว



 นอกจากท่านจะทุ่มเทอบรมลูกศิษย์ลูกหา ทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ภายในประเทศแล้ว ท่านยังทุ่มเทเผยแผ่ไปสู่ต่างประเทศ จนกระทั่งมีชาวต่างชาติเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เป็นครั้งแรกของประเทศไทย

 ที่สำคัญ ก่อนจะลาโลกท่านได้สั่งเอาไว้ว่า ชาวโลกที่บารมีแก่กล้า พอที่จะเข้าถึงธรรมกายในตัว ยังมีอยู่อีกมาก แต่ว่าได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก

 ซึ่งถ้าไม่มีใครไปสอนวิชชาธรรมกายให้ เขาก็จะไม่รู้บุญ รู้บาป เดี๋ยวจะตกนรกไปเสียอีก เพราะฉะนั้น แม้ท่านจะละโลกไปแล้ว ก็ขอให้ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย ตั้งใจนำวิชชาธรรมกายเผยแผ่ไปทั่วโลกให้ได้ 

ข้อมูลจาก http://www.dmc.tv/

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ตอน ‘พระจอมเกล้า’ กับ ‘พระธรรมกาย’

นิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” 
ฉบับเดือนกรกฎาคม นำเสนอบทความที่ชื่อว่า ” 

‘พระจอมเกล้า’ กับ ‘พระธรรมกาย’ 
ในจิตรกรรมวัดปทุมวนาราม” 

เมื่อพูดถึง “พระธรรมกาย” เราท่านมักจะคิดถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ และวัดพระธรรมกาย ที่ศึกษาวิชา “ธรรมกาย” อย่างกว้างขวาง แต่ที่จะกล่าวถึงนี่เป็น “พระธรรมกาย” ตามหลักธรรมของฝ่ายมหายานที่วัดปทุมวนาราม



 “ศิลปวัฒนธรรม” เป็นเสมือนเวทีราชดำเนิน แต่ไม่ใช่เพื่อการต่อสู้ หากเพื่อการถกเถียงและแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ จิตรกรรมฝาผนังที่นักวิชาการทั้งสองเขียนถึง...

 ส่วน “พระธรรมกาย” นั้น พิชญาค้นคว้าเอกสารและพระสูตรต่างๆ พบว่า ...

 ใน “กายตรยสูตร” ของลัทธิมหายานกล่าวถึงพุทธปรัชญาตรีกาย ที่ประกอบด้วย ธรรมกาย (สภาวะของพระตถาคตในฐานะที่เป็นแก่นสารของหลักธรรม), สัมโภคกาย (กายทิพย์), นิรมาณกาย (กายเนื้อ)

 ในคัมภีร์ “พระธรรมกาย” ที่ ฉ่ำ ทองคำวรรณ นักอ่านจารึกและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ค้นพบจากจารึกหลักที่ 54 ในเจดีย์วัดเสือ อำเภอเมือง จ.พิษณุโลก ที่ตอนต้นของคัมภีร์กล่าวว่า

 “พระพุทธลักษณะ คือ พระธรรมกาย มีพระเศียรอันประเสริฐ คือ พระสัพพัญญุตาญาณ มีพระเกศางามประเสริฐ คือ พระนิพพานอันเป็นอารมณ์แห่งผลสมาบัติ มีพระนลาฏอันประเสริฐ คือ จตุตถฌาณ มีพระอุณาโลมอันประเสริฐประกอบด้วยพระรัศมี คือ พระปัญญาในมหาวชิรสมาบัติ มีพระโขนงทั้งคู่อันงามเลิศ คือ พระปัญญาอันประพฤติเป็นไปในนีลกสิณ มีพระเนตรทั้งคู่อันประเสริฐ คือ… …ธรรมจักษุ สมันตจักษุ ปัญญาจักษุ มีพระโสตทั้งคู่อันประเสริฐ คือ ทิพพ (โสตญาณ)”


พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดปทุมวนาราม

ในคัมภีร์ “พระธัมมกายาทิ ฉบับเทพชุมนุม” เป็นคัมภีร์ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างถวาย ซึ่งในภาคผนวกได้อธิบายถึงพระญาณต่างๆ อันประกอบกันเป็นพระธรรมกายมาขยายอย่างละเอียด

ทั้งหมดคือชิ้นส่วนที่รอประกอบกันเพื่ออธิบาย “นัยยะ” ของภาพจิตรกรรมชุดนี้ ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจรู้แจ้งแทงตลอดแล้ว แต่ถ้ายังค้างคาใจก็โปรดได้หาอ่านต่อที่เหลือใน “ศิลปวัฒนธรรม”


เพราะจิตรกรรมของวัดปทุมวนารามจะทำให้เห็น “ความรอบรู้” ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพุทธศาสนาของลัทธิมหายาน เถรวาท ที่ทรงใช้ผสมผสานกันอย่างแยบคาย

โดย พิชญา สุ่มจินดา จากคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

http://www.matichon.co.th/news/212626

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เลขธรรมกาย โดยไทยรัฐ

กระแสร้อนๆ 
วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู 

มีทั้งสนับสนุนและต่อต้าน ‘พระธัมมชโย’ 
ซึ่งกำลังตกเป็นที่พูดถึงจากวงกว้างของคนในสังคม 



กรณี "พระธัมมชโย" เบี้ยวมอบตัวในข้อหาทุจริตยักยอกทรัพย์และ DSI จ่อขอหมายจับ


 สถานการณ์เหมือนจะตึงเครียดขึ้น มีเสริมลวดหนามทำเป็น
ป้อมค่ายป้องกันการถูกบุกสำหรับ

วัดชื่อดังกระฉ่อนโลก วัดพระธรรมกาย หรือที่รู้จัก “วัดจานบิน”...

ไทยรัฐออนไลน์ ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวัดแห่งนี้ 
และมาดูกันว่ามีสิ่งสำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ผ่านตัวเลขเหล่านี้ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณได้อ่านกัน

1. 20 
ตัวเลขนี้เกี่ยวพันกับการก่อตั้ง เพราะปัจจุบันวัดธรรมการตั้งเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

2. 22
พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือ พระธัมมชโย เป็นพระภิกษุชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและประธานมูลนิธิธรรมกาย และตัวเลขนี้คือตัวเลขวันเกิดของพระธัมมชโย 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ที่ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี


วัดพระธรรมกาย

3. 2000
ที่มาของตัวเลขนี้ จุดริ่มต้น วัดพระธรรมกาย มีพื้นที่ 196 ไร่ หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2527 หลวงพ่อธัมมชโยจมีดำริให้ขยายพื้นที่ออกไปอีกเป็น 2,000 ไร่ ยิ่งใหญ่ไปอีก 

4. 194.40
อลังการมากมาย นี่เป็นตัวเลขมหาธรรมกายเจดีย์ สิ่งก่อสร้างภายในวัดพระธรรมกายซึ่งเป็นเจดีย์รูปโดมทรงกลมแบบสาญจิเจดีย์เส้นผ่าศูนย์กลางที่ฐาน 194.40 เมตร ความสูง 32.40 เมตร ประกอบด้วย 3 ส่วน ซึ่งสื่อถึง พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ


5. 1 
เป็นตัวเลขนับหนึ่งที่ว่าด้วย มหารัตนวิหารคด อาคารสองชั้นในรูปแบบคล้ายสเตเดียม ความยาวด้านละ 1 กิโลเมตร รอบมหาธรรมกายเจดีย์ ทั้งสี่ด้านคาดว่าสามารถจุคนได้หนึ่งล้านคน

6.150 - 300000
เป็นตัวเลขแห่งความอลังการ สิ่งก่อสร้าง 

สภาธรรมกายสากล อาคารปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่

 มีพื้นที่กว่า 150 ไร่ ประกอบด้วยชั้น 1 เป็นชั้นจอดรถ และมีห้องประชุมหลายขนาด ตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป สำหรับอบรมศีลธรรมแก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัท ฯลฯ ชั้น 2 ใช้เป็นสถานที่สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม

 ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งใช้ในงานบุญทุกวันอาทิตย์ และงานบุญใหญ่ของวัดตลอดทั้งปี สามารถจุคนได้ประมาณ 300,000 คน

7. เลข 24
หลายคนรักเลขนี้ ไม่ใช่แค่ 7-11 ที่มี 24 ชั่วโมง แต่วัดพระธรรมกาย มีสถานีโทรทัศน์ DMC ซึ่งย่อมาจาก Dhammakaya Media Channel เป็นช่องรายการธรรมะ ออกอากาศผ่านดาวเทียมตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย

8. 6 - 8 - 2513
รู้หรือไม่ว่า ก่อนที่จะเกิดวัดขึ้นมา ได้มีมูลนิธิธรรมกายจัดตั้งขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 เดิมใช้ชื่อว่า "มูลนิธิธรรมประสิทธิ์" โดยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2513


9. 29 -7- 2520
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 กระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เป็นวัดตามกฎหมาย ในชื่อ "ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม" หลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดวรณีธรรมกายาราม" และต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "วัดพระธรรมกาย" จนถึงปัจจุบัน

10. 12 - 1 - 2522
เลขสวยวันดี วัดธรรมกายได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2522

http://www.thairath.co.th/content/629203

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

พระธรรมกาย คือ พระกายอันบริสุทธิ์

พระอริคุณาธาร (เส็ง  ปุสโส) 
พระเกจิสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 


พระอริคุณาธาร (เส็ง  ปุสโส) แถวหน้าสุด อยู่ขวาสุด 
ท่านได้กล่าวเกี่ยวกับ พระธรรมกาย..
ไว้ในหน้งสือ ..ทิพยอำนาจ..ดังนี้



  พระธรรมกาย ได้แก่ พระกายอันบริสุทธิ์. 

  ไม่สาธารณะทั่วไป แก่เทวดาและมนุษย์ หมายถึง พระจิตที่พ้นจากอาสวะแล้ว เป็นพระจิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง มีพระรัศมีแจ่มจ้า เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์อุทัยใขแสง ในนภากาศฉะนั้น

  พระธรรมกายนี้ เป็นพระพุทธเจ้าที่จริงแท้ เป็นพระกายที่พ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย และทุกข์โศกทั้งหลายได้จริง  เป็นพระกายที่เที่ยงแท้ ถาวรไม่สูญสลาย เป็นอยู่ชั่วนิรันดร์ เป็นที่รวมแห่งธรรมทั้งปวง. 

   คือความเป็นพระอรหันต์ไม่สูญ ความเป็นพระอรหันต์นี้ ท่านจัดเป็นอินทรีย์ชนิดหนึ่ง เรียกว่า อัญญินทรีย์ เป็นสภาพที่คล้ายคลึง วิสุทธาพรหม ในสุทธาวาสชั้นสูง 

   เป็นแต่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าเท่านั้น เมื่อมีอินทรีย์อยู่ ก็ย่อมจะบำเพ็ญประโยชน์ได้ แต่ผู้จะรับประโยชน์จากท่านได้ ก็จะต้องมีอินทรีย์ผ่องแผ้วเพียงพอที่จะรับรู้รับเห็นได้

   เพราะอินทรีย์ของพระอรหันต์ ประณีตสุขุมที่สุด เป็นอินทรีย์แก้ว ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจของท่านเป็นแก้ว คือใสบริสุทธิ์ดุจแก้วมณีโชติ ผู้บรรลุถึงภูมิแก้วแล้ว ย่อมสามารถพบเห็นพระแก้ว คือ พระอรหันต์ที่นิพพานแล้วได้

   เพราะอินทรีย์ของพระอรหันต์ ประณีตสุขุมที่สุด เป็นอินทรีย์แก้ว ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจของท่านเป็นแก้ว คือใสบริสุทธิ์ดุจแก้วมณีโชติ ผู้บรรลุถึงภูมิแก้วแล้ว ย่อมสามารถพบเห็นพระแก้ว คือ พระอรหันต์ที่นิพพานแล้วได้

   ความรู้เรื่องนี้ เป็นความรู้ลับในธรรมวินัย ผู้สนใจพึงศึกษาค้นคว้าต่อไป ถ้ารู้ไม่ถึงอย่าพึงค้าน อย่าพึงอนุโมทนา เป็นแต่จดจำเอาใว้ เมื่อใดเหตุผลลงกันจึงอนุโมทนา ถ้ารู้ไม่ถึงแล้วด่วนวิพากษ์วิจารย์ ติเตียน จะเป็นไปเพื่อ บอดตาบอดญาณตัวเอง

  ข้าพเจ้านำเรื่องนี้มาพูดใว้ ...

ด้วยมีความประสงค์จะให้นักศึกษาพระพุทธศาสนา ช่วยกันค้นคว้าความรู้ ส่วนลึกลับของพระพุทธศาสนา ต่อไป



ที่มา......หนังสือ ทิพยอำนาจ หน้า......509-512 
เรียบเรียงโดย.....พระอริคุณาธาร  (เส็งปุสโส)   

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

วีดีโอมหัศจรรย์ในเมืองไทย

วีดีโอมหัศจรรย์ในเมืองไทยที่คนไทยไม่เคยเห็น

แต่ชาวโลกตื่นตะลึงทึ่งไปเลย น่าภูมิใจนะเนี่ย


✩ ค่ำวันที่ 1 มีนาคม 2559 

รายการ "กาลิเลโอ" (Galileo) ของช่อง Prosieben สถานีโทรทัศน์ชื่อดังของประเทศเยอรมัน 

นำเสนอข่าว พิธีจุดโคมมาฆประทีปอันสวยงามอลังการ 

ในวันมาฆบูชา ณ วัดพระธรรมกาย 

ชื่อตอน “เทศกาลสำคัญของพระพุทธศาสนา" 

(Das Wichtigste Fest des Buddhismus)


✩ คลิปนี้เป็นเพียงตัวอย่างประชาสัมพันธ์รายการประจำวัน 


ก่อนออกอากาศจริง 

สั้นแต่น่าสนใจมาก 

ทางรายการโพสลงใน Facebook เพียงไม่กี่ชั่วโมง 

ปรากฏว่ามีผู้เข้าชมเกือบ 40,000 คน 

สำหรับเนื้อหาเต็มๆ 

จะน่าสนใจเพียงใด คงต้องติดตามดูกันต่อไป




https://youtu.be/XuNxrUtIQhA
LINK - 1.3.2016 TV PRO7 MAKA PUJA 22.2.2016 / https://www.dropbox.com/s/e2xzh5gcrz5efc2/GAL_BuddhaZeremonie.mp4?dl=0https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10154621459104535&id=57541544534&_rdr