การค้นพบวิชชาธรรมกาย
วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย คือวันที่เหล่าศิษยานุศิษย์ ต่างรำลึกถึงวันที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) สละชีวิตเป็นเดิมพัน
ในการปฏิบัติธรรมเพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต หรือธรรมะที่แท้จริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบในวันตรัสรู้ นั่นก็คือ "วิชชาธรรมกาย"
ซึ่งนับนานกว่า 2,000 ปีหลังพุทธปรินิพพาน ที่คำสอนที่แท้จริงในด้านการปฏิบัติเพื่อบรรลุซึ่งมรรคและผลได้เลือนหายไป คงเหลือไว้แต่คำว่า "ธรรมกาย" ในพระไตรปิฎกเท่านั้นเอง
จนในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีได้สละชีวิตในการนั่งสมาธิ (Meditation) จนบรรลุธรรม
ดังนั้นในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ทางวัดพระธรรมกาย และศิษยานุศิษย์หลวงปู่ทั่วโลกต่างก็ได้จัดให้มีพิธิฉลองวันครูธรรมกายขึ้นเป็นประจำเหมือนอย่างทุกปีที่ผ่านมา.
ธรรมกาย คือ อะไร?
นับแต่ครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ประสูติ ในวันเพ็ญเดือน 6 ใน วันนั้นเรียกว่า วันบังเกิดแห่ง "รูปกาย หรือ กายเนื้อ" ของ พระโพธิสัตว์
หลังจากนั้นที่โคนไม้พระศรีมหาโพธิ์ พระมาหาสมณะได้ทิ้งชีวิตปฏิบัติธรรมอย่างเด็ดเดี่ยว ใต้โพธิบัลลังก์เพื่อแสวงหาความจริงของชีวิต
จนพระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันเพ็ญเดือน 6 นั่นเอง
วันนั้นเป็นวันที่เรียกว่า วันบังเกิดแห่ง “ธรรมกาย หรือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรม”
ดังนั้น ธรรมกาย คือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เข้าถึง แล้วทำให้ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระองค์บริบูรณ์ขึ้นมานั่นเอง.
หลังจากนั้น 45 พรรษาแห่งการเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ได้เทศนาสั่งสอนให้คนทั้งหลายได้รู้จักธรรมกาย
และหนทางปฏิบัติให้เข้าถึงซึ่งธรรมกาย อันเป็นทางเอกสายเดียว และเป็นทางสายกลางที่จะให้มวลมนุษย์ได้เข้าถึงความสุขอันยิ่งใหญ่ หรือ พระนิพพานได้!!
แต่หลังจากนั้นประมาณ 500 ปีหลังพุทธปรินิพพาน วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรมกาย ได้หายสาบสูญไปเหลือเพียงแต่คำว่า ธรรมกาย ให้คนรุ่นหลังได้ตีความไปต่างๆ นานา
แต่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วธรรมกายคืออะไร!
จนในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ที่พระอุโบสถ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง พระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง (สด จนฺทสโร) ได้สละชีวิตเป็นเดิมพัน ขอนั่งสมาธิแม้ตายก็ไม่ลุกจากที่ หากไม่เข้าถึงธรรมที่พระบรมศาสดาได้เข้าถึง
ในที่สุดแห่งความพยายาม ท่านได้เข้าถึงธรรม ณ ที่นั้น และได้เผยแผ่ธรรม ตลอดจนวิธีปฏิบัติ อันเป็นแม่แบบ และ ต้นแบบ ตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ อย่างถูกต้องตามร่องรอยของพระพุทธศาสนาจนตลอดชีวิตของท่าน
ทำไมเราต้องเคารพ และบูชาท่าน?
เมื่อได้ลงมือศึกษาพระไตรปิฎกแล้วจะพบว่า การศึกษาจนกระทั่งแตกฉาน แล้วสามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในภาคปฏิบัตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย.
เพราะว่าคำพูดแต่ละคำที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกนั้น ล้วนเป็นถ้อยคำที่ลึกซึ้ง มีความหมายได้หลายนัย หากเอาความรู้ของเราที่มีอยู่ไปวินิจฉัย แล้วนำมาปฏิบัติ ก็ยากที่จะบังเกิดผลได้
ด้วยเหตุนี้เองการที่ผู้ใดผู้หนึ่ง จะศึกษาธรรมะให้ได้เข้าใจลึกซึ้ง ชัดเจน และสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติ ให้เกิดผลได้จริงแล้ว เรื่องสำคัญคือ "ต้องได้ครูดี"
เพราะว่าถ้ายังหาครูดีไม่เจอ เมื่ออ่านธรรมะแล้ว ธรรมะนั้นจะผ่านตาแต่ไม่ผ่านใจ แล้วตีความหมายผิดเพี้ยน หรือว่ามีความลึกซึ้งไม่เพียงพอที่จะนำไปปฏิบัติก็ได้ จนในที่สุดอาจจะทำให้ต้องเดือดร้อนตามมาในภายหลัง
นอกจากจะค้นวิชชาธรรมกายกลับมาได้แล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ ยังเมตตานำวิชชาธรรมกาย ไปสอนผู้อื่น เพื่อให้มนุษย์ในยุคนั้น ได้รู้จักวิชชาธรรมกายตามท่านอีกด้วย
เพราะเมื่อถึงคราวปฏิบัติธรรม ท่านก็เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไปค้นเอาวิชชาธรรมกายย้อนกลับมาให้พวกเรา...
ถึงคราวอบรมลูกศิษย์ลูกหา ท่านก็ได้วางกฎ วางระเบียบ เอาไว้ เป็นขั้น เป็นตอน อย่างละเอียดชัดเจน และเนื่องจากการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงธรรมกายในตัวนี้ ไม่ใช่ทำได้ง่าย
ท่านจึงได้เคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ ขนาบแล้วขนาบอีก อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใครที่ปฏิบัติได้จริง ก็เท่ากับเป็นพยานให้กับพระพุทธศาสนาไปด้วยในตัว
นอกจากท่านจะทุ่มเทอบรมลูกศิษย์ลูกหา ทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ภายในประเทศแล้ว ท่านยังทุ่มเทเผยแผ่ไปสู่ต่างประเทศ จนกระทั่งมีชาวต่างชาติเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ที่สำคัญ ก่อนจะลาโลกท่านได้สั่งเอาไว้ว่า ชาวโลกที่บารมีแก่กล้า พอที่จะเข้าถึงธรรมกายในตัว ยังมีอยู่อีกมาก แต่ว่าได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก
ซึ่งถ้าไม่มีใครไปสอนวิชชาธรรมกายให้ เขาก็จะไม่รู้บุญ รู้บาป เดี๋ยวจะตกนรกไปเสียอีก เพราะฉะนั้น แม้ท่านจะละโลกไปแล้ว ก็ขอให้ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย ตั้งใจนำวิชชาธรรมกายเผยแผ่ไปทั่วโลกให้ได้
ข้อมูลจาก http://www.dmc.tv/








